เส้น path

การสร้างตัวหนังสือให้วิ่งไปตามเส้น path

1. เลือกเครื่องมือที่เราจะใช้ทำเส้น path ก่อน โดยเราจะใช้ pen tool เป็นตัวเขียนเส้น path มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ พอเลือกเครื่องมือเสร็จเราก็มาเลือก fill ให้เป็น none ก่อนแล้วเลือกสีให้เส้น stroke เพื่อที่เราจะได้สร้างเส้นขึ้นมาและแก้ไขมันได้ก่อนที่เราจะนำตัวหนังสือมาเขียนใส่

2. ขั้นตอนต่อไปเราก็ใช้ pen tool สร้างเส้น path ขึ้นมา ตามที่เราต้องการโดยที่ต้องการให้เส้น path โค้งก็ให้คลิ้ก mouse ซ้ายค้างไว้หลังจากคลิ้ก mouse สร้างจุดขึ้นมาแล้วลาก mouse ให้เกิดความโค้งตามที่เราต้องการ

3.เมื่อเราสร้างเส้น path เสร็จแล้ว ( ตามที่เราต้องการและเหมาะสมกับข้อความที่เราจะใส่)

4. ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการพิมพ์ตัวหนังสือใส่ ต้องใช้เครื่องมือ Type Tool โดยเลือก Path Type Tool มาใช้ โดยที่กด mouse ที่ค้างไว้ Type Tool จะปรากฏเครื่องมือของ Type Tool เพิ่มขึ้นมา แล้วเลือก Path Type Tool

5. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพิมพ์ตัวหนังสือลงให้ นำ mouse ไปคลิ้กที่ปลายเส้น path ที่เราสร้างขึ้น เราก็จะสามารถพิมพ์ข้อความเข้าไปได้


อ้างอิง : http://www.blogger.com/อ้างอิงโดย%20:%20http://game.wezone.it/illusstator/article/basic2/ar31/ar31.htm

กิจกรรมสัปดาห์ที่ 5

คำถามประจำวัน


1.สระลอยคืออะไร
ตอบ สระลอย (Independent vowel) หมายถึงสระที่ไม่ต้องมีพยัญชนะต้นกำหนด ก็สามารถประสมเป็นคำหรือพยางค์ได้ ซึ่งตรงข้ามกับ สระจม (dependent vowel) ที่จำเป็นต้องมีพยัญชนะต้นจึงประสมเป็นคำหรือพยางค์ได้
2.สระลอยมีผลกระทบกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์อย่างไร
ตอบ ทำให้ความถูกต้องของตัวอักษรมีโอกาศที่จะมีความคลาดเคลื่อนได้ แล้วยังทำให้ความสวยงามของภาพหรือโปสเตอร์นั้นๆ ลดความสวยงามลงได้




3. โปรแกรมที่ใช่แก้สระลอยชื่ออะไร สามารถใช้งานอย่างไร
ตอบ เอเอสเค สแควร์ เป็นโปรแกรมฟรีแวร์ (Freeware) ที่ใช้ร่วมกับโปรแกรม Adode ต่างๆเพื่อแก้ปัญหาการจะไม่รองรับภาษาไทย ใช้กับฟอนต์ไทยได้ไม่ครบ หรือไม่ก็พิมพ์อักษรบางตัวไม่ออก หรือการที่วรรณยุกต์มักจะลอยสูงเกินหรือที่นิยมเรียกกันว่า "สระลอย" ที่สำคัญใช้งานฟรีตลอดชีพ ไม่มีค่าใช้จ่าย
ส่วนการใช้งานนั้น เอสแควร์ สามารถแก้สระลอยขณะพิมพ์หรือแก้สระลอยของประโยคที่พิมพ์ไปแล้ว ด้วยการคลิกเพียงแค่ครั้งเดียว

กิจกรรมสัปดาห์ที่4

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ Adobe Indesign

ประโยชน์ของโปรแกรม AdobeInDesign

- โปรแกรมสำหรับงานด้านสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ 1 หน้าขึ้นไป

- ใช้ในงานออกแบบเอกสารสิ่งพิมพ์รูปแบบต่าง ๆ

- ใช้เป็นโปรแกรมจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์

จุดเด่นของโปรแกรม Indesign

1.สามารถทำงานด้านการจัดหน้ากระดาษได้เป็นอย่างดี ซึ่งคล้ายๆ กับการนำเอาโปรแกรม PageMaker มารวมกับโปรแกรม Illustrator

2.ระบบการทำงานของโปรแกรม InDesign นั้น ไม่สามารถใช้ Indesign เดี่ยวๆ ได้ ต้องมีความรู้พื้นฐานของ Photoshop และ illustrator ด้วย เพราะต้องมีการเตรียมรูปภาพจาก Photoshop และเตรียมคลิปอาร์ต หรือ Logo ต่างๆ มาจาก illustrator

3.ส่วนข้อความสามารถเตรียมมาจาก โปรแกรมประเภท Word แล้วจึงนำมาประกอบรวมกันเป็นหนังสือ หรือแผ่นพับต่างๆ ใน InDesign เสร็จแล้วจึง Export ไฟล์งาน เพื่อส่งโรงพิมพ์ ทางโรงพิมพ์ต่อไป

Indesign แนวทางการทำงานที่ควรรู้กับภาษาไทย

>>> http://www.blogger.com/Indesign%20แนวทางการทำงานที่ควรรู้กับภาษาไทย

การปรับช่องไฟภาษาไทยใน InDesign CS4

>>> http://www.indesignthai.com/?p=14

พื้นฐานการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์

สวย เวิร์ก สืื่อ

บรรทัดฐานในการออกแบบ 3 ข้อ ดังนี้

1. การตอบสนองประโยชน์การใช้สอย

2 . ความสวยงามความพึงพอใจ

3. การสื่อความหมาย

กระบวนการทำงานออกแบบ

1. วิเคราะห์โจทย์ที่มาให้สร้างผลงาน ซึ่งได้แก่

1.1 What เราจะทำงานอะไร

1.2 Where งานของเราจะนำไปใช้ที่ไหน

1.3 Who ใครเป็นคนที่มาใช้งาน

1.4 How จะทำงานชิ้นนี้อย่างไร

2. สร้างแนวคิดหลักในการออกแบบให้ได้ (Concept)

3. ศึกษางานหรือกรณีตัวอย่างที่มีอยู่แล้ว

4. ออกแบบร่าง

5. ออกแบบจริง

◆ ความรู้สึกเกี่ยวกับเส้นต่างๆ

1. เส้นตั้งหรือเส้นดิ่ง : มั่งคง แข็งแรง สง่า
2. เส้นนอน : สงบ ราบเรียบ
3. เส้นเฉียงหรือเส้นทแยงมุม : เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่มั่นคง
4. เส้นหยุกหรือเส้นซิกแซกแบบฟันปลา : เคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ มีระเบียบ
5. เส้นโค้ง : เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ลื่นไหว ต่อเนื่อง
6. เส้นโค้งแบบก้นหอย : ไม่สิ้นสุด

7. เส้นโค้งวงแคบ : เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

8. เส้นประ : ไม่ต่อเนื่อง ขาด หาย

◆ ความรู้สึกเกี่ยวกับรูปทรงต่างๆ

○ : เป็นศูนย์กลาง เป็นที่รวมจุดความสนใจ

█ : สงบ มั่นคง เป็นระเบียบ

▲ : ทิศทาง เฉียบคม

กิจกรรมสัปดาห์ที่ 3

กระดาษสำหรับงานพิมพ์ต่างๆ

กระดาษปรู๊ฟ

• กระดาษที่มีส่วนผสมของเยื่อบดที่มีเส้นใยสั้น และมักนำเนื่อจากระดาษที่ใช้แล้วมาผสมด้วย
• น้ำหนักประมาณ 40-52 กรัม / ตารางเมตร
• มีสีอมเหลือง ราคาไม่แพง มีความแข็งแรงน้อย เหมาะสำหรับงานพิมพ์ประเภทหนังสือพิมพ์ และเอกสารที่ไม่เน้นคุณภาพมาก

กระดาษแบ้งค์

• กระดาษบางไม่เคลือบผิว มีหลายสี
• น้ำหนักประมาณ 50 กรัม / ตารางเมตร
• ไว้ใช้สำหรับงานพิมพ์แบบฟอร์มต่างๆ

กระดาษปอนด์



• กระดาษที่ทำจากเยื่อเคมีที่ผ่านการฟอกและอาจมีส่วนผสมของเยื่อที่มาจากเศษผ้า
• มีสีขาว ผิวไม่เรียบ น้ำหนักประมาณ 60-100 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้สำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการงานความงามระดับปานกลาง

กระดาษอาร์ต

• กระดาษที่ทำจากเยื่อเคมี (เยื่อที่ทำจากสารเคมี) และเคลือบผิวให้เรียบ
• น้ำหนักประมาณ 80-160 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้ทำสื่อพิมพ์ที่ต้องการความสวยงาม งานพิมพ์สอดสี เช่น โบรชัวร์

กระดาษฟอกขาว

• กระดาษที่ทำจากเยื่อเคมีและฟอกให้ขาว
• เป็นกระดาษที่มีคุณภาพสูงและมีความหนาแน่นสูง ดูดซึมน้อย
• ใช้ทำงานสำหรับพวกหนังสือ กระดาษพิมพ์เขียน

กระดาษเหนียว

• กระดาษที่ทำจากเยื่อซัลไฟต (เยื่อที่ทำมาจากสารซัลเฟต) มีความเหนียวเป็นพิเศษ มีสีน้ำตาล
• น้ำหนักประมาณ 80-180 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้สำหรับทำสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์

กระดาษการ์ด

• กระดาษที่ที่มีความหนาและแข็งแรง ประกอบด้วยชั้นกระดาษหลายชั้น
• น้ำหนักประมาณ 110-140 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้ทำปกหนังสือ บรรจุภัณฑ์ที่มีราคา เช่น กล่องเครื่องสำอาง

กระดาษกล่อง

• กระดาษที่ทำจากเยื่อบด แล้วมักนำเยื่อกระดาษมาผสม มีสีคล้ำไปทางเทาหรือน้ำตาล
• น้ำหนักประมาณ 180-600 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้สำหรับทำสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เช่น กล่อง ป้าย

กล่องแข็ง

• กระดาษหลายชั้นแข็งหนา ทำจากเยื่อไม้บดและเยื่อกระดาษเก่า มีผิวขรุขระ สีคล้ำ
• น้ำหนักประมาณ 430 กรัม / ตารางเมตร
• ใช้ทำปกหนังสือ ฐานปฏิทินตั้งโต๊ะ บรรจุภัณฑ์

กระดาษแฟนซี

• กระดาษที่มีรูปร่างต่างจากกระดาษทั่วไป มีหลายสีสัน ทั้งแบบหนาและแบบบาง
• สามารถนำไปใช้แทนกระดาษทั่วไปได้ เช่น นามบัตร หัวจดหมาย บรรจุภัณฑ์

กระดาษอื่นๆ

• นอกจากที่กล่าวมายังมีกระดาษชนิดอื่นอีก เช่น กระดาษถนอมสายตา กระดาษกันปลอม เป็นต้น

กิจกรรมสัปดาห์ที่ 2

สร้างข้อความเหมือนควันบุหรี่ โดย Photoshop

1. พิมพ์ข้อความ

2. Filter ---> Distort ---> Ripple ตั้งค่า Amount ประมาณ 85% Size = Large แล้วคลิก OK ได้ เลย

จะได้รูปดังนี้

3. double click ที่ layer text แล้วเลือกที่ Satin ตั้งค่าต่างๆตามด้านล่าง

รูปก็จะออกมาแบบนี้ค่ะ

5. จากนั้น click ขวาที่ layer text แล้วเลือก Duplicate layer แล้วตั้งค่า layer นั้นเป็น Muliply และ Opacityเป็น 20% จากให้ให้คลิกที่ layer text อันแรกแล้วไปที่ Filter ---> Blur ---> Gaussian Blur ตั้งค่าเป็น 1.6

6. เลือก Pencil tool แล้วลากเว้นตามด้านล่าง

7. Filter ---> Distort ---> Ripple ตั้ง Amount = 85% Size = Large แล้วคลิก OK ได้เลย จากนั้่นให้ไปที่ Filter ---> Blur ---> Gaussian Blur แล้วตั้งค่าเป็น 1.4

8. Click ขวาที่ layer ที่เราคัดลอกมาแล้วเลือก Blending Options แล้วเลือกที่ Color Overlay แลวทำการตั้งค่าตามด้านล่าง

เรียบร้อยแล้วค่ะ

Credit :

http://www.empiredezign.com/version2/portfolio/pages/tutorials/smoke.htm